ลองมาทำความรู้จักเกี่ยวกับเอกสาร ภ.พ. 30 ว่าคืออะไร แล้วทำไมเราถึงต้องยื่นเอกสารนี้ แล้วเกี่ยวอะไรกับภาษีซื้อ ภาษีขาย และภาษีมูลค่าเพิ่ม แล้วเมื่อไหร่ล่ะเราถึงจะต้องเริ่มยื่น ภ.พ. 30 วันนี้เรามาไขข้อข้องใจในการยื่นเอกสารพร้อมขั้นตอนการยื่น ภ.พ. 30 มาฝากกันครับ
หัวข้อเนื้อหา
ภ.พ. 30 คืออะไร?
ภ.พ. 30 คือเอกสารที่ธุรกิจจะต้องยื่นส่งกับกรมสรรพากรทุกเดือน ถ้าหากใครยังนึกไม่ออกว่า ภ.พ. 30 นั้นคืออะไร จริงๆ แล้วเป็นเอกสารที่อยู่ใกล้ตัวเรามากๆ เลยครับ ทุกครั้งที่เราไปซื้อสินค้าไม่หรือบริการ และไม่ว่าจะเป็นการไปทานอาหารที่ไหนสักที่ เวลาจ่ายเงินทางร้านค้าจะมีการออกบิลที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มเข้าไปด้วย นั่นหมายความว่าร้านอาหารหรือบริการที่เราไปใช้ได้ยื่นจดภาษีมูลค่าเพิ่มหรือจด VAT ที่เราเรียกกัน โดยเอกสาร ภ.พ. 30 นั้นเป็นเอกสารที่ผู้ประกอบการจะต้องยื่นหลังการจดภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT (Value Added Tax)
เมื่อไหร่ที่จะต้องจดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
แบบ ภ.พ. 30 คือแบบแสดงภาษีซื้อและภาษีขาย ที่ทางบริษัทต้องแจ้งกับกรมสรรพากรทุกเดือน ซึ่งภาษีทั้ง 2 ประเภทมีความหมายดังนี้
ภาษีซื้อ คือภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่เราต้องจ่ายให้กับร้านค้าหรือบริการที่ขายสินค้าหรือให้บริการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
ภาษีขาย คือภาษีมูลค่าเพิ่มที่มาจากราคาสินค้าและบริการ ที่ร้านค้าหรือบริการชำระให้ให้กับผู้บริโภค
ยื่น ภ.พ.30 ได้อย่างไร และยื่นเมื่อไร?
ถ้าหากธุรกิจของคุณมีรายได้ (ย้ำว่ารายได้!) มากกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้องขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่สำนักงานสรรพากรในพื้นที่ก่อน แล้วขอยื่นแบบ ภ.พ. 30 ที่กรมสรรพากร โดยเน้นย้ำว่า ภ.พ. 30 เป็นเอกสารที่จำเป็นต้องยื่นก่อนวันที่ 15 ของทุกเดือน
ภ.พ. 30 นั้น สามารถยื่นได้ที่สำนักงานสรรพากรในเขตพื้นที่ หรือยื่นผ่านระบบออนไลน์ได้ที่ www.rd.go.th ก่อนวันที่ 15 ของเดือนถัดไปครับ
ตัวอย่างเอกสาร ภ.พ. 30
ที่มา : https://www.rd.go.th/
ถ้าหากใครไม่สะดวกไปยื่นเอกสารที่กรมสรรพากรในพื้นที่ทุกๆ เดือน สามารถยื่นแบบออนไลน์ หรือที่เรียกกันว่า E- Filling เรียกได้ว่าอำนวยความสะดวกให้กับเราได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่กรอกยอดซื้อและยอดขาย ในแต่ละเดือนได้ที่บ้าน โดยสามารถกรอกบนระบบออนไลน์ และยื่นแบบ ภ.พ. 30 ได้ทุกเวลา และต้องยื่นแบบ ภ.พ. 30 ก่อนวันที่ 15 ของทุกๆ เดือน สุดท้ายแล้วอย่าลืมเช็คความถูกต้องก่อนกรอกข้อมูลลงบนเว็ปไซต์ด้วยนะครับ
